รมช.อัครา เปิดงานวันกุ้งกระบี่ ครั้งที่ 21 มุ่งขับเคลื่อนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกุ้งไทย พร้อมสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดและนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันกุ้งกระบี่ ครั้งที่ 21 ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ กุ้งไทยยั่งยืน” เพื่อสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ ของพันธมิตรคนกุ้งในการขับเคลื่อนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกุ้งไทย และร่วมเสวนาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรผู้เลี้ยงกุ้งไทย 19 กลุ่ม พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการวิชาการเกี่ยวกับเทคนิคการเพาะเลี้ยงและโรคกุ้งทะเล รวมถึงบูทแสดงสินค้า นวัตกรรมที่เกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้ง โดยมี นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวนัส วัตตธรรม ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เกษตรกรชาวประมง ภาคประชาชน เข้าร่วม ณ เดอะ แพลทตินั่ม ฮอลล์ อ.เมือง จ.กระบี่
สำหรับการจัดงานวันกุ้งกระบี่ในครั้งนี้ เป็นการสร้างการรับรู้องค์ความรู้ใหม่ ๆ ร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่าง ๆ ของพี่น้องคนกุ้งทั่วทุกภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นเวทีที่สร้างความร่วมมือระหว่างเกษตรกร ภาคเอกชน ภาครัฐ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันวางแผนการบริหารจัดการ ทั้งด้านการผลิตและการตลาด ร่วมกันแก้ไขปัญหา ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการผลิตกุ้งที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผลผลิตกุ้งทะเลจากการเพาะเลี้ยงรวมทั้งสิ้น 209,293.10 ตัน ลดลงเล็กน้อย (ร้อยละ 6.09) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งภาคใต้ฝั่งอันดามันมีผลผลิตกุ้งทะเลมากเป็นลำดับ 2 ของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.61 ทั้งนี้ จังหวัดกระบี่ ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดผู้ผลิตกุ้งทะเลที่สำคัญของประเทศไทย โดยมีผลผลิตกุ้งทะเลสูงเป็นลำดับที่ 9 ของประเทศไทย หรือเป็นลำดับที่ 3 ของภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งจังหวัดกระบี่มีผลผลิตสูงทั้งกุ้งขาวแวนนาไมและกุ้งกุลาดำ สามารถเป็นต้นแบบการเลี้ยงกุ้งที่ประสบความสำเร็จให้กับพี่น้องเกษตรกรจังหวัดอื่น ๆ ได้
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ภายใต้การกำกับดูแลของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายการขับเคลื่อนงานที่สำคัญ 9 นโยบาย ที่มุ่งเน้นการทำการเกษตรกรที่ยั่งยืน ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอาชีพและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกร จึงมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลในหลายด้าน ทั้งการลดต้นทุนการผลิต โดยส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกทดแทนพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ทดแทนการใช้ยาและสารเคมีในการเลี้ยงกุ้ง เพื่อลดความเสี่ยงความเสียหายจากการเกิดโรค และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ รวมถึงการส่งเสริมการส่งออกของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายอัครา กล่าว
จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล ณ มนัสชัยฟาร์ม 2 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อเยี่ยมชมฟาร์มต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการนำระบบโซล่าร์เซลล์มาใช้เป็นพลังงานทดแทนภายในฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล ร่วมกับการเลี้ยงแบบ Zero waste โดยนำดินเลนจากบ่อเลี้ยงกุ้งมาปลูกพืชผักสวนครัว และการใช้จุลินทรีย์ทดแทนการใช้สารเคมีระหว่างการเลี้ยง
ด้านนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มนัสชัยฟาร์ม 2 เป็นฟาร์มต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงกุ้งทะเล มีการบริหารจัดการฟาร์มอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การคัดเลือกลูกกุ้งที่มีคุณภาพจากโรงเพาะฟักหรือโรงอนุบาลลูกกุ้งที่ผ่านการตรวจโรค และมีใบรับรองการตรวจโรคของแต่ละรอบการผลิตหรือกิจกรรม Lot by lot ของกรมประมง โดยทางฟาร์มเลือกใช้กุ้งขาวแวนนาไมสายพันธุ์ทนโรค เน้นการควบคุมคุณภาพน้ำระหว่างการเลี้ยงและมีการสุ่มตรวจหาเชื้อก่อโรคในกุ้งเป็นระยะๆ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีหากมีการตรวจพบเชื้อก่อโรค นอกจากนั้นทางฟาร์มเน้นการเติมจุลินทรีย์เติมลงบ่อเลี้ยง เพื่อควบคุมปริมาณจุลินทรีย์และเชื้อก่อโรคภายในบ่อ พร้อมทั้งผสมจุลินทรีย์กับอาหารให้กุ้งกินเพื่อสร้างสมดุลในระบบลำไส้ ส่งผลให้กุ้งมีสุขภาพดี ทดแทนการใช้สารเคมีระหว่างการเลี้ยง และที่สำคัญ มนัสชัยฟาร์ม 2 ได้เลือกใช้พลังงานสะอาดระบบโซล่าร์เซลล์สำหรับเครื่องตีน้ำ โดยฟาร์มจะเปิดเครื่องตีน้ำตลอดช่วงกลางวัน และในวันที่มีแดดน้อยระบบที่ติดตั้งจะทำการดึงไฟฟ้าระบบปกติเข้ามาเสริม ซึ่งการติดตั้งระบบไฟฟ้าโซล่าเซลล์ดังกล่าวสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ร้อยละ 30 ต่อเดือน และสามารถคืนทุนได้หมดภายในระยะเวลา 3 ปี และคาดว่าการเลี้ยงกุ้งโดยใช้ระบบโซล่าเซลล์นี้จะเป็นต้นแบบและทางเลือกให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในอนาคต