ประเทศไทยเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ พื้นที่แห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของโลก มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้สรรพชีวิตกำเนิด อยู่อาศัย และแพร่กระจายพันธุ์ เรียกได้ว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ มีพันธุ์พืชมากกว่า 15,000 ชนิด มีพันธุ์สัตว์ ไม่ว่าจะเป็นนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และปลาอีกรวมกว่า 3,040 ชนิด ทว่าความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กำลังถูกรุกรานจากน้ำมือมนุษย์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ทรงงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง โดยทรงจัดตั้งโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เพื่อสร้างความเข้าใจและทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ พันธุกรรมพืชและสัตว์ตลอดจนวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ที่อยู่บนแผ่นดินไทยซึ่งเปรียบดังทรัพย์สมบัติของชาติให้ยั่งยืนสืบไปในอนาคต
ด้านพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ได้สนองโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ อพ.สธ - พกฉ. จัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 สร้างจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ทรัพยากร ดำเนินงาน 4 กิจกรรมด้วยกัน ทั้งการปลูกรักษาทรัพยากร เผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ สนับสนุนกิจกรรมของศูนย์เรียนรู้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ในการอนุรักษ์ทรัพยากร ตลอดจนการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบุคลากรและเยาวชน ให้เข้าใจและเห็นความสำคัญของพันธุกรรมพืช เพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักและหวงแหนทรัพยากร ทรงมีพระราชกระแสความว่า “การรักทรัพยากร คือการรักชาติ รักแผ่นดิน” ซึ่งทาง พกฉ. ได้น้อมนำมาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์พันธุกรรม
พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “นับเป็นเวลา 12 ปีแล้ว ที่โครงการ อพ.สธ - พกฉ. ได้ขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์พันธุกรรม โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 นี้ กำหนดให้มีการจัดนิทรรศการองค์ความรู้ พร้อมด้วยเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่เครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ อาทิ จังหวัดแพร่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชุมพรและจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เด็ก เยาวชน มีความรู้ ความเข้าใจ เกิดความหวงแหนและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรไทย เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป”
นอกจากนี้ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พกฉ. ได้จัดงานมหกรรม“ทรัพย์ดิน สินน้ำ” ในวันที่ 1 – 3 เมษายน 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพย์สินอันทรงคุณค่าแห่งการอนุรักษ์จากธรรมชาติ และสืบสานพระราชปณิธานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการอนุรักษ์พันธุกรรม โดยภายในงานมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเผยแพร่พระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจ ด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชและพันธุกรรมสัตว์ และนิทรรศการคลังอาหาร สร้างชีวิต นิทรรศการมีชีวิตจากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ อาทิ พันธุกรรมพืชใต้ดิน พันธุกรรมสัตว์ พันธุกรรมข้าว พันธุกรรมผักพื้นบ้าน พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม เป็นต้น รวมไปถึงการอบรมวิชาของแผ่นดินและอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 10 หลักสูตร เรียนรู้กับเกษตรกรตัวจริง เสียงจริงที่มาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตร และการอนุรักษ์พันธุกรรมในรูปแบบ Onsite และ Online โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทุกหลักสูตร ถือเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระอัจฉริยภาพพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ด้านการอนุรักษ์พันธุกรรมสู่ประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
พลอากาศเอก เสนาะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการเข้าร่วมเรียนรู้พันธุกรรมและทรัพยากรธรรมชาติที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ สามารถเข้าเรียนรู้ในพิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรมและพิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร รวมถึงแปลงต้นไม้แห่งการเรียนรู้ องค์ความรู้จากหนังสือร้อยพรรณพฤกษาพันธุ์ไม้ในพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ และเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ได้ทาง www.wisdomking.or.th : คลังต้นไม้แห่งการเรียนรู้ และพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum) อีกด้วย”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13, 087-359-7171 หรือ 094-649-2333 คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.wisdomking.or.th หรือ facebook / Instagram /Line ID : @wisdomkingmuseum และ Youtube พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ