ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.นครสวรรค์ กำแพงเพชร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าสะสมในลำน้ำสาขาและแม่น้ำสายหลักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,820 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตราที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ชุมชนเนื่องจากยังคงมีฝนตกในระยะนี้ พร้อมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได ในอัตรา 1,550 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนาตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา(แม่น้ำน้อย)ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10 ถึง 20 เซนติเมตร
ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนในระยะนี้ อาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป