รมว.นฤมล ร่วมพิธีเปิดการประชุม World Food Forum แลกเปลี่ยนแนวทางการปรับเปลี่ยนระบบอาหารสู่ความยั่งยืน
15 ต.ค. 2567
78
0
รมว.นฤมลร่วมพิธีเปิดการประชุม
รมว.นฤมล ร่วมพิธีเปิดการประชุม World Food Forum แลกเปลี่ยนแนวทางการปรับเปลี่ยนระบบอาหารสู่ความยั่งยืน

กรุงโรม – งาน The fourth edition of the World Food Forum (WFF) flagship event, ซึ่งเป็นงานประจำปี ที่รวบรวมผู้เข้าร่วมและผู้เกี่ยวข้องในแวดวงระบอาหารและเกษตรจากทั่วโลก ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โดยในปีนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 18 ตุลาคม 2567 ภายใต้ธีม อาหารที่ดีกว่าเพื่อทุกคนทั้งในวันนี้และอนาคต “Good food for all, for today and tomorrow” และมีผู้ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนแนวคิด เพื่อร่วมสร้างหนทางสู่การมีอาหารที่ยั่งยืน ทั่วถึง และมั่นคงในอนาคต ซึ่งสะท้อนถึงภารกิจหลักของ FAO

ในโอกาสนี้ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหหกรณ์ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยผู้นำระดับสูงของนานาประเทศ อาทิ
• ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปการค้าเกษตรผ่านองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อให้ระบบเกษตรและอาหารมีความยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น
• สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งเอสวาตินี ได้ตรัสถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรและอาหารเพื่อแก้ไขปัญหาความหิวโหย ภาวะทุพโภชนาการ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเอง ความยั่งยืน และความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้ระบบอาหารเกิดความยั่งยืน
• สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งเลโซโท ได้ทรงเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการลงทุนจากภาคเอกชน ระบบการเกษตรที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน
• ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐโดมินิกัน ทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและบทบาทของเกษตรกรรายย่อยในการผลิตอาหาร การปรับปรุงการผลิตทางการเกษตร การส่งเสริมการส่งออก และให้การสนับสนุนประชากรกลุ่มเปราะบาง
• ประธานาธิบดีแห่งไลบีเรีย เรียกร้องให้มีการร่วมมือกันในระดับโลกเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่งเสริมการผลิตอาหารในท้องถิ่น และสร้างโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคมแก่ประชากรกลุ่มเปราะบาง
• ประธานาธิบดีเปรูเน้นย้ำถึงความสำคัญของ WFF ในการแก้ไขปัญหาความหิวโหยและความไม่มั่นคงด้านอาหารทั่วโลก โดยเปรูมีความมุ่งมั่นที่มีต่อระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยส่งเสริมนโยบายเพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ลดการสูญเสียอาหาร และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
• นายกรัฐมนตรีบาร์เบโดส ได้เรียกร้องให้มีการลงทุนอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและการจัดการน้ำ เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหาร โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมและความร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรอาหาร
• ประธานาธิบดีคิวบาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเกษตรที่ยั่งยืนและการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ โดยให้แนวทางเหล่านี้สอดคล้องกับอธิปไตยด้านอาหารและความมั่นคงของประเทศ
• นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน เรียกร้องให้มีการสนับสนุนแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและนวัตกรรมทางการเงินเพื่อให้มั่นใจถึงความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนกลุ่มเปราะบาง
• ประธานาธิบดีปารากวัย เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความหิวโหยและความไม่เท่าเทียมกัน และเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันในระดับนานาชาติ และเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ FAO ในการส่งเสริมการเข้าถึงอาหารอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก

นอกจากนี้ คณะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เยี่ยมชมกิจกรรมและนิทรรศการที่จัดขึ้นคู่ขนานในบริเวณโถงใหญ่ ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ FAO ซึ่งสอดคล้องกับธีมหลักของงานใน 3 ด้าน ได้แก่
• ด้านเยาวชน Global Youth Forum เพื่อขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยมี Youth Assembly เป็นเวทีสำหรับเยาวชนในการอภิปรายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการเกษตร ซึ่งในปีนี้มีผู้แทนเยาวชนไทย 4 ท่าน เข้าร่วมการประชุม ณ สำนักงานใหญ่ FAO กรุงโรม
• ด้านความร่วมมือและการลงทุน FAO Hand-in-Hand Investment Forum เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ในประเด็นที่มีความเร่งด่วน/ความสนใจร่วมกัน เพื่อขจัดความยากจน/ผู้หิวโหย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท
• ด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม FAO Science and Innovation Forum เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างความร่วมมือในการใช้นวัตกรรม เพื่อพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหาร

ตกลง