เมื่อวันพุธที่ 11 กันยายน 2567 นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดังนี้

     1. จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ สำนักงานพัฒนาที่ดินเชียงราย โดยสรุปสถานการณ์อุทกภัยได้ดังนี้

     - ลุ่มน้ำอิง ยังมีสถานการณ์อุทกภัย 3 อำเภอ ได้แก่ เทิง ขุนตาลและพญาเม็งราย โดยคาดว่าถ้าไม่มีฝนตก ระดับน้ำจะลดลงได้ภายใน 1 สัปดาห์

     - อำเภอแม่สาย มีฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง ในวันที่ 9 กันยายน วัดปริมาณน้ำฝนได้ 16.8 มิลลิเมตร วันที่ 10 กันยายน 2567 วัดปริมาณน้ำฝนได้ 87.2 มิลลิเมตร รวมปริมาณฝนสะสม 48 ชั่วโมง จำนวน 99 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นพื้นที่อย่างรวดเร็ว บริเวณเทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ อำเภอแม่สาย ระดับน้ำสูงประมาณ 1.0 - 1.5 เมตร ปัจจุบันในพื้นที่บริเวณน้ำท่วมยังมีฝนตก แนวโน้มสถานการณ์ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นหน่วยงานในสังกัด กษ. ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกสำรวจความเสียหาย และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือรองรับสถานการณ์ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมท่อส่งน้ำ จำนวน 6 เครื่อง รถบรรทุกน้ำจุ 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาด 6 ตัน ติดเครน จำนวน 1 คัน และได้มีการขนย้ายสุกรไปไว้ในที่สูงเรียบร้อยแล้ว

     -การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ได้ดำเนินการระบายน้ำสายเข้าสู่คลอง RMC1/2/3 และคลองระบายต่างๆ เพื่อระบายลงสู่ลำน้ำมะ ลำน้ำรวกและแม่น้ำโขง และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาลตำบลแม่สาย ผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ร่วมกันนำเศษกิ่งไม้และวัชพืชออกจากทางน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำเดิมต่อไป และได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

     2. การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ณ อำเภอแม่สาย โดยมีการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำ ซึ่งแม่สายมีพื้นที่น้ำท่วม 6,385 ไร่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,945 ครัวเรือน หลังจากนั้นได้พบปะให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบภัย โดยมีการตั้งโรงครัวในที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อทำอาหารแจกให้กับประชาชน

     3. การลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ณ ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมทั้งแจกจ่ายข้าวกล่องให้เกษตรกร 100 กล่อง ทั้งนี้ ภายหลังจากระดับน้ำลดลง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ต่อไป

     นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานการเร่งรัดและให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็ว