ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อเข้าร่วมการประชุมผลักดันความร่วมมือด้านการเกษตรกับ Mr. Ermek Kenzhehanuly (นายเออร์เมก เคนเซฮานูลี) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงเกษตรสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อส่งเสริมการค้า การถ่ายทอดเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการเกษตรในสาขาต่าง ๆ โดยการแลกเปลี่ยนนักวิชาการ การวิจัยร่วม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาตลาด การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า และการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารและความปลอดภัยทางอาหาร เป็นต้น ณ กระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการเกษตรกับคาซัคสถานในด้านต่าง ๆ ทั้งมิติวิชาการและการค้า ซึ่งคาซัคสถานถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียกลางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีความร่วมมือด้วยอย่างเป็นทางการ แม้ว่าที่ผ่านมาการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับคาซัคสถานจะมีปริมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่คาซัคสถานเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยประชากรประมาณ 20 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 450,000 บาท ต่อปี และเป็นประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ทั้งนี้ คาซัคสถานมีนโยบายที่จะเป็นศูนย์กลางในการขนส่งของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) จึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องเกษตรกรของทั้งสองฝ่าย ในส่วนของการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร เนื่องจากคาซัคสถานเป็น EAEU ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบของสหภาพยุโรป ทำให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวจากไทยจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มประเทศดังกล่าว รวมถึงได้มีการหารือถึงการเสริมสร้างความร่วมมือและแนวทางในการส่งออกสินค้าในรูปแบบทวิภาคีกับคาซัคสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าประมงแปรรูปและสินค้าฮาลาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานในเรื่องดังกล่าว โดยกระทรวงเกษตรฯได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรระหว่างไทยและคาซัคสถาน ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายเกษตรที่สำคัญ การผลักดันโครงการความร่วมมือด้านวิชาการเกษตร รวมทั้งการหารือถึงแนวทางการขยายการค้าสินค้าเกษตรและอาหารระหว่างกัน