นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดิน และผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมคณะทำงาน ประกอบด้วย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสวนท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับข้อมูลและการร้องเรียนว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจเข้าข่ายรุกที่ ส.ป.ก.
จากการตรวจสอบพบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรวัฒนธรรม มีสิ่งปลูกสร้างถาวร โดยภายในมีสระน้ำขนาดใหญ่สองบ่อ รวมถึงมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยว เช่น ให้อาหารและเลี้ยงช้าง มีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มีการเก็บค่าเข้าชม ซึ่งทันทีที่คณะทำงานฯ มาถึง ผู้ดูแลสถานที่ซึ่งเป็นหุ้นส่วนเจ้าของพื้นที่ ได้เข้ามาต้อนรับคณะทำงานพร้อมนำชี้จุดและชี้แจงข้อมูลการได้มาซึ่งการครอบครองของที่ดิน โดยคณะทำงานตรวจสอบ ชี้แจงว่า เหตุผลที่เดินทางมาตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเนื่องจาก พบข้อมูลว่าอาจเข้าข่ายใช้ประโยชน์จากที่ดินผิดวัตถุประสงค์
นายธนดล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่าที่ดินจำนวน 150 ไร่ เคยออกเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดินแบบ ส.ป.ก. ก่อนจะสละสิทธิ์ไป 80 ไร่ เพื่อขอใช้ที่ดินแบบสนับสนุนกิจการเกี่ยวเนื่อง บริเวณอาคารที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเลี้ยงช้าง ทำให้พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการจัดสรรที่ดินจาก ส.ป.ก. ซึ่งทำให้ไม่มีสิทธิ์นำไปใช้ทำประโยชน์ใด ๆ ได้ แต่ทางเจ้าของพื้นที่อ้างว่า ตัวเองอาศัยสิทธิ์การทำประโยชน์ในที่ดิน ตามเอกสารสิทธิ์ครอบครอง แบบ ส.ค.1 (ใบแจ้งการครอบครองที่ดินเป็นหลักฐานว่าผู้ครอบครองเป็นผู้แจ้งว่า ตนครอบครองที่ดินแปลงใดอยู่) อย่างไรก็ตาม คณะทำงานฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรีทำหนังสือไปยังเจ้าของสวนท่องเที่ยวดังกล่าว เพื่อให้เข้ามาชี้แจงรายละเอียดการครอบครองที่ดินภายใน 30 วัน หากพบการกระทำความผิด ทางคณะทำงานฯ จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป