‘รมว.นฤมล’เผย ยอดออมเงินทั่วประเทศ ในโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนฯ มีกว่า 21 ล้านบาท เตรียมสานต่อโครงการช่วยวางรากฐานให้เกษตรกร
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (กิจกรรมเปิดกระปุกออมสิน) โดยมี นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดทำโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็งฯ ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเพิ่มความรู้ทางการเงินการบัญชี และส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการออมและฝึกอาชีพเสริมรายได้ ประกอบด้วย กิจกรรมสอนแนะการจัดทำบัญชีรับ - จ่ายในครัวเรือน สอนแนะการจัดทำบัญชี ผ่านสมุดบัญชีและ Smart Phone และกิจกรรมฝึกอาชีพเสริมรายได้สร้างเงินออม ตามแนวคิด “บวร” (บ้าน-ชุมชน/วัด-ศาสนาสถาน/โรงเรียน-ส่วนราชการ) มุ่งสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือน ส่งเสริมการออม โดยมีการ Kick Off เปิดโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 และมีการจัดทำกระปุกออมสิน จำนวน 10,000 กระปุก แจกให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการภายใต้โครงการฯ พบว่า มีประชาชนในชุมชนและบุคลากรกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าร่วมกิจกรรม รวม 10,473 ราย 89 ชุมชน ใน 77 จังหวัด และส่งผลให้เกิดเงินออมในครัวเรือนทั่วประเทศ รวมจำนวน 21,380,751 บาท
รมว.นฤมล กล่าวว่า นอกจากที่กระทรวงเกษตรฯ จะมุ่งเน้นยกระดับรายได้เกษตรกรแล้วนั้น ยังคงมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้ในเรื่องการลดต้นทุน ควบคู่กับการวางแผนและบริหารจัดการด้านการเงินที่เหมาะสม เพื่อสร้างวินัยในการออม และแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนจากต้นทาง ซึ่งได้มอบหมายกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ดำเนินการสานต่อโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร อีกทั้งเสริมองค์ความรู้ให้ภาคประชาชน สามารถนำบัญชีไปใช้วางรากฐานของชีวิต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความสมดุลในการดำรงชีวิตและกระตุ้นให้เกิดการออมอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พร้อมผลักดันการวางแผนบัญชีครัวเรือนอย่างเป็นระบบ และการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด เพื่อการเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” อีกทั้ง เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งครัวเรือนและแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอีกด้วย