นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าภารกิจการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมี นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จึงได้มอบหมายกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ดำเนินการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการ 6 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดระยอง จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดตาก จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแพร่ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละลองในอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมทั้งน้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการปฏิบัติการแก้ไขและบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อควบคุมค่าฝุ่นละอองให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งผลการปฏิบัติการเชิงรุกตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 67 -16 ธ.ค. 67 พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ - ปริมณฑล และพื้นที่ภาคเหนือ มีค่าฝุ่นละอองต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
รมช.อิทธิ กล่าวว่า สำหรับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทั้งรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญอย่างมาก ในนามกระทรวงเกษตรฯ ขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าเราให้ความสำคัญและห่วงใยสุขภาพพี่น้องประชาชนทุกท่าน ซึ่งได้กำชับกรมฝนหลวงฯ ให้เดินหน้าปฏิบัติการบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั้งในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และพื้นที่ภาคเหนืออย่างเอาจริงเอาจัง สำหรับแนวทางการปฏิบัติการได้น้อมนำตำราฝนหลวงพระราชทานมาปรับใช้ในการดัดแปรสภาพอากาศตามเทคนิคลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน การโปรยน้ำแข็งหรือการสเปรย์น้ำเพื่อระบายฝุ่นละอองและการปฏิบัติการก่อเมฆสำหรับช่วยดูดซับฝุ่นละอองแบบเชิงรุก ทั้งนี้ เป้าหมายหลักคือการคืนอากาศดีและสุขภาพที่ดีแก่พี่น้องประชาชนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และในทุกเทศกาลต่อไป
ด้านนายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดทำแผนการดัดแปรสภาพอากาศ ประจำปี 2568 เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละลองในอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และพื้นที่ภาคเหนือ โดยการต่อยอดตำราฝนหลวงพระราชทานสำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงและปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ มีจำนวน 3 เทคนิค ได้แก่
1. การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการก่อกวน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 1 (โซเดียมคลอไรด์) ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่เพื่อก่อเมฆและเพิ่มปริมาณเมฆในพื้นที่เป้าหมาย
2.การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการเลี้ยงให้อ้วน โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 8 แคลเซียมออกไซด์ หรือสูตร6 แคลเซียมคลอไรด์ ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่ เพื่อเลี้ยงเมฆให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแรงดูดซับฝุ่นละออง
3. การปฏิบัติการเทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน โดยการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือการสเปรย์น้ำเพื่อระบายฝุ่นละอองบริเวณระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) หรือสูงกว่าระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน) เพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบน
ทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรพร้อมปฏิบัติภารกิจทุกวันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองตามนโยบายจากรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ประชาชนมีคุณภาพอากาศที่ดีท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข