กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (22 ม.ค. 68) ว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 57,673 ล้าน ลบ.ม. (76% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 33,731 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 18,939 ล้าน ลบ.ม. (76% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 12,243 ล้าน ลบ.ม. จนถึงขณะนี้ทั้งประเทศมีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 12,294 ล้าน ลบ.ม. (42% จากแผนฯ) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาจัดสรรน้ำไปแล้ว 4,009 ล้าน ลบ.ม. (45% จากแผนฯ) ด้านผลการเพาะปลูกพืชทั้งประเทศมีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วรวม 7.95 ล้านไร่ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการเพาะปลูกข้าวนาปรังแล้ว 5.97 ล้านไร่
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศเดินหน้าบริหารจัดการน้ำตามแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ด้วยความประณีต ควบคู่ไปกับการจัดหาแหล่งน้ำสำรองและเก็บกักน้ำให้มากที่สุด ตลอดจนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการใช้งานในทุกกิจกรรมตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้า ตามนโนบายของศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์