นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และพบปะเกษตรกร รับฟังปัญหาในพื้นที่ ณ วัดพระธาตุผาเงา ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคอย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำดังกล่าว ประกอบด้วย 2 แห่ง ได้แก่ 1. สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำเชียงแสน หมู่ที่ 8 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน สนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,000 ไร่ ครอบคลุมประชาชน 5,246 ครัวเรือน รวม 9,583 คน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ฟื้นฟูระบบนิเวศคูเมืองโบราณเชียงแสน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ 2. สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านสบคำ หมู่ที่ 5 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน สนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,500 ไร่ ครอบคลุมประชาชน 545 ครัวเรือน รวม 1,449 คน ช่วยให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการทั้งสองแห่งเป็นการเสริมศักยภาพการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้ง แก้ไขปัญหาน้ำท่วม และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร พร้อมกำชับให้กรมชลประทานเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งยังยืนยันว่า ทุกเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร กระทรวงเกษตรฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรในจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ รมช.นเรศ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการปรับปรุงระบบประตูฝายน้ำล้นดอยจำปี ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน โดยมีนายศุภสันต์ วิริยะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าสัก นำเสนอข้อมูลสภาพปัญหาของฝายซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 2526 ปัจจุบันชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถกักเก็บน้ำและระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งและน้ำท่วมในฤดูฝน
รมช.นเรศ จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานพิจารณาสำรวจ ออกแบบ และวางแผนก่อสร้างประตูระบายน้ำใหม่พร้อมระบบส่งน้ำ โดยบูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่อย่างยั่งยืน และสร้างความมั่นใจว่าพี่น้องเกษตรกร