1. เปลี่ยนการแสดงผล :
    2. C
    3. C
    4. C
    5. C
    6. ตัวช่วยการเข้าถึงเว็บไซต์
    7. แผนผังเว็บไซต์
    8. EN
    9. TH
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Ministry of Agriculture and Cooperatives
ตราสัญลักษณ์ 133 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรฯ ผนึก GISTDA เปิดตัว “AIP Dashboard” ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสู้ภัยสภาพภูมิอากาศภาคเกษตร
3 พ.ย. 2568
132
0
กระทรวงเกษตรฯผนึกGISTDAเปิดตัว“AIPDashboard”ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสู้ภัยสภาพภูมิอากาศภาคเกษตร
กระทรวงเกษตรฯ ผนึก GISTDA เปิดตัว “AIP Dashboard” ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสู้ภัยสภาพภูมิอากาศภาคเกษตร

กระทรวงเกษตรฯ ผนึก GISTDA เปิดตัว “AIP Dashboard” ยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสู้ภัยสภาพภูมิอากาศภาคเกษตร

                 นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานประชาสัมพันธ์การใช้ระบบ Dashboard ภายใต้โครงการ "AIP for Climate Resilient Agriculture" ณ โรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่และสาธิตการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถติดตามสถานการณ์ภูมิอากาศ วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง และวางแผนเชิงนโยบายด้านการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานพันธมิตร และผู้แทนจากภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานกว่า 250 คน

               นายกฤษ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภาคเกษตรกรรมไทยเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย หรือความผันผวนของฤดูกาล การมีเครื่องมือที่สามารถเชื่อมโยง วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากหลายมิติได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ภาครัฐสามารถบริหารจัดการความเสี่ยง และวางแผนเชิงนโยบายได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที

              สำหรับ AIP Dashboard ที่เปิดตัวในครั้งนี้ พัฒนาโดย GISTDA ร่วมกับ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการข้าว กรมชลประทาน กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระดับภูมิภาคและพลังงานทดแทน (RU–CORE)
แพลตฟอร์มดังกล่าว ถือเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ที่บูรณาการข้อมูลภูมิสารสนเทศ และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากหลายหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านเกษตรกรรมและการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะ ทำให้สามารถประเมินพื้นที่เสี่ยง คาดการณ์แนวโน้ม และกำหนดแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างตรงจุด

              “กระทรวงเกษตรฯ มีบทบาทสำคัญในฐานะหน่วยสนับสนุนนโยบาย เพื่อส่งเสริมให้หน่วยปฏิบัติในภาคสนามสามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลด้านการผลิตและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาโครงการดังกล่าวช่วยยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลของภาคเกษตรให้มีความแม่นยำและทันต่อสถานการณ์มากขึ้น โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เทคโนโลยี AI ช่วยเปลี่ยนวิธีคิดและการวิเคราะห์ข้อมูลจากเดิมที่อาศัยข้อมูลเก่าและการคาดเดา มาเป็นการใช้ระบบวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ที่สามารถมองเห็นปัจจัยเสี่ยงและแนวทางตัดสินใจได้อย่างชัดเจน“ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว

             นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวเพิ่มเติมว่า “AIP for Climate Resilient Agriculture” ถูกออกแบบให้เป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ครอบคลุม 3 มิติหลัก ได้แก่
1. การบริหารจัดการระยะสั้น (Short-term Management) การติดตามและพยากรณ์สถานการณ์น้ำท่วม–ภัยแล้ง แบบ Near-Real time ช่วยให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นสามารถเห็นแผนที่พื้นที่เสี่ยง เพื่อเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือ ลดผลกระทบได้อย่างเหมาะสม 2. การปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระยะยาว (Long-term Adaptation) การวิเคราะห์สถานการณ์ตามฉากทัศน์ (Scenarios) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต 10-20 ปีข้างหน้า เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถทดสอบผลลัพธ์ของแผนงานหรือนโยบายต่างๆ ก่อนนำไปใช้จริง และเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด 3. การลดผลกระทบ (Climate Change Mitigation) การบริหารจัดการมีเทนในนาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนที่สำคัญ โดยระบบสามารถประเมินและจำลองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่จะลดลง หากเกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูก (เช่น การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง) เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

             “ข้อมูลทั้งหมดนี้ ถูกนำเสนอผ่าน Dashboard แบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Dashboard) ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลความเสี่ยงและผลกระทบได้ทันที ทั้งในรูปแบบแผนที่ กราฟเปรียบเทียบ และรายงานสรุป ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจเชิงนโยบายมีข้อมูลประกอบอย่างรอบด้านและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว

Loading...
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง