ก.เกษตรฯ มุ่งส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศกว่า 5 ล้านไร่
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีเปิดโรงอบความชื้นข้าวและทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว และงานรวมพลคน ศพก. แปลงใหญ่ และ Young Smart Farmer เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปภาคการเกษตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพการเกษตรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ประชาชน “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่นยืน” ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนหลักในการขับเคลื่อนประเทศไทย ซึ่งการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่กำหนดไว้ในแผนปฏิรูปประเทศไทย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งหวังให้พี่น้องเกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรให้มีปริมาณเพียงพอตามความต้องการของตลาด มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีการเชื่อมโยงให้มีตลาดรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรมีการบริหารจัดการกลุ่ม เพื่อวางแผนการผลิต ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และจัดการผลผลิตให้เหมาะสมกับตลาด ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งเสริมกลุ่มแปลงใหญ่แล้วจำนวน 6,062 กลุ่ม ใน 10 กลุ่มสินค้า เกษตรกร 405,240 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 5,578,267 ไร่
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกลุ่มแปลงใหญ่ จำนวน 3,136 กลุ่ม สมาชิก 233,115 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.56 ของครัวเรือนเกษตรทั้งหมดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ 2,894,616 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 4.53 ของพื้นที่การเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยบูรณาการของทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ศักยภาพของพื้นที่ และตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกร โดยดำเนินงานภายใต้ประเด็นการพัฒนา 5 ด้าน คือ 1) ลดต้นทุนการผลิต 2) เพิ่มผลผลิต/ไร่ 3) พัฒนามาตรฐานการผลิต (GAP/ Organic) 4) การบริหารจัดการกลุ่มให้มีความเข้มแข็ง และ 5) การบริหารจัดการด้านการตลาด ปัจจุบันจังหวัดศรีสะเกษมีแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ในพื้นที่ 22 อำเภอ จำนวนทั้งสิ้น 324 แปลง จำนวน 12 ชนิดสินค้า ได้แก่ ข้าว กระเทียม พริก มันสำปะหลัง ดาวเรือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทุเรียน ยางพารา หม่อนไหม ปลาตะเพียน กระบือ และกบ มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 25,677 ราย พื้นที่ 284,028.68 ไร่
นายเฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง เป็นกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยกลุ่มดังกล่าวได้ทำการผลิตและแปรรูปสินค้าข้าวเป็นหลัก ปัจจุบันสามารถผลิตและแปรรูปส่งสินค้าผลิตภัณฑ์ข้าวจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ แนวคิดในการดำเนินงานของกลุ่มแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนอุ่มแสง มุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิตด้วยการรวมกันจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี จัดหาปัจจัยการผลิต การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ สารชีวภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ในกระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและเกษตรกร