นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีปล่อยคาราวานโคเนื้อไปสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้บริหารกรมปศุสัตว์ หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมปศุสัตว์เข้าร่วม ณ ลุงเชาวน์ฟาร์ม จังหวัดสุพรรณบุรี ว่า ประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีด้านการค้ากับทางสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในการส่งออกสินค้าหลักที่สำคัญ เช่น ชา กาแฟ เครื่องเทศ น้ำมันสำเร็จรูป และสินค้าทางการเกษตรอีกหลายรายการ สำหรับในรายสินค้าโคเนื้อ ทางสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยคณะกรมสุขภาพสัตว์ (Department of Animal Health: DAH) กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม ได้ส่งหนังสือแจ้งความสนใจที่จะนำเข้าโค – กระบือจากประเทศไทย พร้อมทั้งได้เดินทางมาดูงานด้านโคเนื้อในไทย และล่าสุดได้ส่งหนังสือแจ้งข้อกำหนดและระเบียบการส่งออกโค - กระบือของไทยไปยังเวียดนาม รวมถึงแจ้งอนุมัติให้ฟาร์มโค - กระบือ จำนวน 14 ฟาร์มของประเทศไทยส่งออกโคเนื้อไปยังเวียดนามได้ตามจำนวนที่กำหนด จำนวน 7,000 ตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน - 28 กันยายน 2566
“ที่ผ่านมาประเทศไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศอย่างดียิ่ง และในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการส่งออกโคเนื้อจากประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยเริ่มต้นการส่งโคเนื้อเป็นจำนวน 180 ตัว ถือเป็นจุดเชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดี โดยผลจากความสำเร็จในวันนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อให้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวไทยให้มีรายได้ที่มั่นคง ทั้งเป็นขวัญและกำลังใจอันดีที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรยึดถือในอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อได้อย่างยั่งยืน และสุดท้ายนี้จะขอความร่วมมือจาก พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อให้หยุดการใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการส่งออกโคเนื้อไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามด้วย” รมช.ประภัตร กล่าว
ทั้งนี้ การส่งออกโคเนื้อไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จะต้องทำการส่งจากประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และจาก สปป.ลาว ไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือ สปป.ลาว ในการควบคุมการขนส่งข้ามพรมแดนแล้ว และทาง สปป.ลาว ยินดีที่จะให้การอำนวยความสะดวกขนส่งโค – กระบือมีชีวิตจากไทย กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์จึงได้เร่งชี้แจงแนวทางการปฏิบัติการส่งโคเนื้อไปจำหน่ายยังเวียดนามให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของเวียดนามแล้ว เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา