กระทรวงเกษตรฯ จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน” พร้อมเชิญชวนทุกหน่วยงานในสังกัดร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

       นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของโครงการฯ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน” พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน” ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน มีการบูรณาการร่วมกันหลายภาคส่วน เพื่อพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 129 กลุ่มบ้าน ดังนี้ 1) การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมให้ประชาชนมีอาชีพที่มั่นคง ด้วยการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเกษตรแบบประณีตที่ให้ผลตอบแทนสูง ภายใต้มาตรฐานอาหารปลอดภัย คือ GAP และเกษตรอินทรีย์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม จากภาคการเกษตร 114,003,521 บาท โดยเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำหมันมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงสุด 122,116 บาท/ปี 2) ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้แผนที่ดินรายแปลงกำหนดขอบเขตพื้นที่ป่ากับพื้นที่ทำกินอย่างมีส่วนร่วม และวางแผนการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ทุกหมู่บ้านหลักมีพื้นที่บุกรุกลดลง จากกิจกรรมการปรับระบบการเพาะปลูกและใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม และมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น 85,625 ไร่ 3) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น มีการจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคที่เป็นระบบมากขึ้น และ 4) ด้านการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบและศูนย์เรียนรู้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา มีศูนย์เรียนรู้ชุมชน 14 แห่ง ที่สามารถขับเคลื่อนโดยกลุ่มเกษตรกรเอง มีเกษตรกรผู้นำที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ 64 ราย และสามารถกระจายความรู้ได้ถึง 110 กลุ่มบ้าน ส่งผลให้มีเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ 54,345 ราย

       รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ผ่านโครงการ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน” โดยคัดเลือกพื้นที่จาก 129 กลุ่มบ้าน ให้เกิดการพัฒนาสู่พื้นที่ต้นแบบและแหล่งเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมอันจะเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในการสร้างประโยชน์สู่แก่ประชาชนและประเทศชาติต่อไป