รมว.ธรรมนัสควงรมช.อรรถกรเปิดงาน "52 ปี วันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร" มุ่งพัฒนากลุ่มเกษตรกรเข้มแข็งต่อยอดสู่ความเป็นอยู่ที่ดี
ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยนายอรรถกรศิริลัทธยากรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานพิธีเปิดงาน "52 ปีวันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร" เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 72 พรรษาณสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ตำบลช้างใหญ่อำเภอบางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กระทรวงเกษตรฯโดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทยจัดงาน “52 ปีวันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร” เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 72 พรรษาขึ้นในระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2567 ซึ่งกลุ่มเกษตรกรได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่เกษตรกรสร้างอำนาจการต่อรองแก่เกษตรกรรายย่อยและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเกษตรกรในระดับชุมชนตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกรได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิตสำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และกำหนดแนวทางในการพัฒนากลุ่มเกษตรกรสู่ความเข้มแข็งรวมถึงการจัดนิทรรศการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร/จัดแสดงผลงานกลุ่มเกษตรกรดีเด่นประจำปีพ.ศ. 2567 เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกรที่ดีมีคุณภาพให้เป็นที่แพร่หลายแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป
รมว.ธรรมนัสกล่าวว่าในช่วงระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯได้มีการทำงานในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและได้นำนโยบาย "ตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้" มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งทำให้เห็นว่าสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรหลายประเภทมีการดีดตัวสูงขึ้นมากตามเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่าภายในระยะเวลา 4 ปีและจะมีการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมการเกษตรมาช่วยในการลงต้นทุนทั้งด้านการผลิตและการแปรรูปในเรื่องของปัญหาราคาพืชสวนได้มีการถอดบทเรียนและวางแผนมาตรการการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในด้านของสินค้าปศุสัตว์และประมงขณะนี้สถานการณ์ราคากำลังดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรมีกิจการก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องณสิ้นปี 2566 ประเทศไทยมีกลุ่มเกษตรกรทั้งสิ้น 3,995 กลุ่มมีสมาชิกจำนวน 339,162 คนและมีมูลค่าปริมาณธุรกิจสูงถึง 7.7พันล้านบาทมีธุรกิจหลักคือให้สินเชื่อเพื่อการผลิตส่งเสริมการออมในหมู่สมาชิกรวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่ายและจัดหาปัจจัยการผลิตมาจำหน่ายแก่สมาชิกกลุ่มเกษตรกรกว่าร้อยละ 30 มีความเข้มแข็งในระดับ 1 และ 2 และได้รับการพัฒนาด้านการบริการสมาชิกการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความเข้มแข็งยิ่งๆขึ้นไป
ในโอกาสนี้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมเสวนาในหัวข้อ“นโยบายด้านการผลิตด้านการแปรรูป”อีกด้วย