ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมวัฒนธรรมสานส้มพันธ์อิ้วเมียนโลก ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 18 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยการจัดงานดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิอิ้วเมียนไทย หน่วยงานในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายทางวัฒนธรรม ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ ร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอดวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน และเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่มีคุณค่าและมูลค่า สามารถนำไปต่อยอดการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยาและประเทศไทย
สำหรับมหกรรมวัฒนธรรมสานสัมพันธ์อิ้วเมี่ยนโลก เป็น 1 ใน 6 เทศกาลประเพณีที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศยกระดับสู่ระดับชาติและนานาชาติ เป็นการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจด้วยวัฒนธรรม รวมทั้งผลักดัน "Soft Power" ความเป็นไทย เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5F โดยขับเคลื่อนงานเทศกาลประเพณีสู่ระดับโลก
ทั้งนี้ จังหวัดพะเยา เป็นจังหวัดที่แยกตัวออกมาจากจังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย มีประชากรทั้งสิ้น 458,279 คน แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ โดยจังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ 11 ชาติพันธุ์ สำหรับชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยนได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ใน 7 อำเภอของจังหวัดพะเยา ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน อำเภอภูซาง อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ที่เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนงานโครงการหลวงและขยายผลงานโครงการหลวงในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมบนที่สูงของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญและมอบหมายให้ขับเคลื่อนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ มุ่งส่งเสริมอาชีพภาคการเกษตร ให้มีความยั่งยืน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถนำจุดเด่นของชาติพันธุ์มาขยายผลเป็น Soft power ควบคู่กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตต่อไป