กระทรวงเกษตรฯ โดย กยท. ผนึกกำลัง IRRDB ร่วมจุดประกายเสริมสร้างนวัตกรรมยางพารามุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ผลักดันงานวิจัย - นวัตกรรม สู่การพัฒนาวงการยางตลอดห่วงโซ่อุปทาน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการยางระหว่างประเทศ (IRRDB International Rubber Conference : IRC 2024) ภายใต้แนวคิด “จุดประกายเสริมสร้างนวัตกรรมยางพารามุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน” มุ่งผลักดันงานวิจัย - นวัตกรรม สู่การพัฒนาวงการยางตลอดห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจัดขึ้นโดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับสภาวิจัยและพัฒนายางระหว่างประเทศ (International Rubber Research and Development Board: IRRDB) ระหว่างวันที่ 19 - 21 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวแทนหน่วยงานสถาบันวิจัยจาก 19 ประเทศสมาชิก ได้แก่ บังกลาเทศ บราซิล กัมพูชา แคเมอรูน จีน โกตดิวัวร์ ฝรั่งเศส กัวเตมาลา อินเดีย อินโดนีเซีย ไลบีเรีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ไนจีเรีย ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา เวียดนาม และไทย และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ โรงแรมดุสิตธานีพัทยา จ.ชลบุรี และศึกษาดูงานกระบวนการรวบรวมผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรบางบุตร จ.ระยอง และการแปรรูปยางของสหกรณ์กองทุนสวนยางอำเภอบ่อทอง จำกัด จ.ชลบุรี นอกจากนี้ ภายในงาน รมว.เกษตรฯ ยังได้มอบแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาง รับมือความท้าทายในทุกมิติ และมอบรางวัลด้านต่าง ๆ ได้แก่ รางวัลผู้อุทิศตนให้กับงานด้านอุตสาหกรรมยางพารามาอย่างยาวนาน รางวัลผลงานงานวิจัยดีเด่น 2024 รางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ 2024 (สาขาต้นน้ำ/ปลายน้ำ) และการมอบใบประกาศให้กับสมาชิกสมทบ IRRDB จากภาคเอกชนด้วย
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกที่เป็นผู้นำด้านการผลิตยางพารา และมีประวัติศาสตร์การทำเกษตรอย่างยาวนาน มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการเกษตรเพื่อความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญและตระหนักถึงการกำหนดทิศทางในอนาคตของสินค้ายางพารา ซึ่งเป็นพืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและของโลก เวทีประชุมวิชาการครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันความรู้ และความร่วมมือในการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยางพารา ภายใต้แนวคิด "จุดประกายเสริมสร้างนวัตกรรมยางพารามุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน" ผ่านการนำนวัตกรรม และสำรวจแนวคิดใหม่ ๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์และนักวิจัยรุ่นเยาว์ พัฒนาสู่แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน รับมือกับความท้าทายในภาคอุตสาหกรรมยางพาราที่กำลังเผชิญ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม เพื่อสามารถขับเคลื่อนวงการยางพาราทุกภาคส่วนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“ขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนจากทุกประเทศที่มีส่วนร่วมในการประชุมที่สำคัญนี้ สำหรับความทุ่มเท และความมุ่งมั่นในการพัฒนางานวิจัย และนวัตกรรมยางพาราทั้งระบบให้ก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ของผู้เกี่ยวข้องในวงการยางตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ เชื่อว่าทุกความคิดเห็น และมุมมองที่หลากหลายจากการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่การกำหนดแนวทางร่วมกัน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยางให้เกิดความยั่งยืนทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งประโยชน์ที่จะเกิดกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย นำไปสู่การพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งการนำเสนอผลงานทางวิชาการ งานวิจัย และการแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะ ความคิดเห็น ประสบการณ์ของตัวแทนหน่วยงานสถาบันวิจัยจาก 19 ประเทศสมาชิก จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานวิจัยให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาวงการอุตสาหกรรมยางต่อไป