พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ : การรื้อฟื้นเพื่อบำรุง ขวัญเกษตรกร
พระราชพิธีจรดพระนังคัล หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าพิธีแรกนาขวัญ เป็นพิธี โบราณปรากฏมา ตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา แล้วสืบทอดต่อมาจนถึง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกกันแต่เดิม ว่า “พระราชพิธีไพศาขจรดพระนังคัล"
พิธีกรรมนี้เดิมเป็นพิธีพราหมณ์ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีพืชมงคลอีกพิธี หนึ่ง เป็น พิธีพุทธ ทำล่วงหน้าก่อนพระราชพิธีจรดพระนังคัล ๑ วัน เพื่อให้เป็น สิริมงคลแก่เกษตรกร
ในสมัยสุโขทัย พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพิธี แรกนาด้วยพระองค์เอง ในสมัยอยุธยา พระเจ้าแผ่นดินไม่เสด็จฯ ไปด้วยพระองค์เอง แต่พระราชทานพระแสง อาญาสิทธิ์แก่พระยาแรกนา ถือเสมือนเป็นผู้แทน พระองค์ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ ไปทอดพระเนตร บ้างเป็นครั้งคราว และระงับไปหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ แต่ได้กลับมารื้อฟื้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓
แม้สภาพสังคมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง เข้าพระทัยถึงอุบาย แห่งพิธีกรรมโบราณ ดังพระราชดำรัสที่ได้พระราชทานแก่ ผู้นำสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคมและ สหกรณ์ประมงทั่วประเทศ ที่เข้าเฝ้าฯ ในวันพืชมงคล เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ว่า
"...ที่ท่านทั้งหลายได้มีโอกาส ได้เข้าร่วมในพิธีพืชมงคลจรด พระนังคัลแรกนาขวัญในวันนี้ ซึ่งถ้าคิด ไปก็เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ เพราะว่าทั่วโลกนี้ดูเหมือนจะมีแต่เมืองไทยที่มีพิธีของส่วนกลาง เพื่อเป็นสิริ มงคลแก่เกษตรกร..."
"... ชาวเกษตรกรทั้งหลายย่อมทราบดีว่าความเป็นมงคลนี้สำคัญ ยิ่งในการปฏิบัติงานของการเกษตร เพราะว่าเกษตรกรย่อมต้อง อาศัยปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้การเพาะปลูกหรือกิจกรรมของตน มีความ ผาสุกก้าวหน้าได้ การที่ทำอะไรที่เป็นมงคลนี้ โดย เฉพาะอย่างยิ่งทำให้เกิดกำลังใจ เพราะว่าคนเรา ถ้าร่วมจิต ร่วมใจกันก็เกิดเป็นพลังอย่างสูง..."
ด้วยทรงเห็นว่าการประกอบพิธีเพื่อราษฎร เป็นการให้กำลังใจและบำรุงขวัญแก่เกษตรกร จึง เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีนี้ สืบต่อมาทุกปีมิได้ขาด